เจ้าตำรับไก่ย่างพลังงานแสงอาทิตย์ ไอเดียเจ๋ง กักเก็บไอระเหยของน้ำมันเบนซินและน้ำมันโซล่าจากปั๊มหลอดมาใช้ในการหุงต้มโดยเรียกว่าแก๊สห่วงยาง
แก๊สห่วงยางที่ว่านี้เกิดขึ้นเพราะไอเดียของนายศิลา    สุฑารัตน์  อายุ  ๔๙  ปี  อยู่บ้านเลขที่  ๒๑๙  หมู่  ๗  ต.หนองโสน  อ.เมือง  จ.เพชรบุรี  เจ้าของต้นตำรับไก่ย่างพลังงานแสงอาทิตย์เจ้าเดียวและเจ้าแรกของโลก  ซึ่งขณะนี้ได้มีอาชีพเสริมโดยการขายน้ำมันปั๊มหลอด  โดยการขายแต่ละครั้งนั้นต้องผ่านขั้นตอนโดยการหมุนเพื่อให้น้ำมันที่อยู่ในถังน้ำมันขนาดใหญ่ถูกดันขึ้นมายังหลอดแก้วที่สามารถมองเห็นชนิดของน้ำมันได้  โดยการปั่นแต่ละครั้งนั้นจะมีแรงดันซึ่งเป็นแก๊สระเหยขึ้นเหนือหลอดแก้วโดยเป็นพลังงานสูญเสียไปโดยเปล่าประโยชน์  แต่สำหรับนายศิลา  กลับนำไอระเหยของน้ำมันที่สูญเปล่านั้นมากักเก็บไว้ในยางในรถยนต์ขนาดใหญ่เพื่อนำไปใช้เป็นแก๊สหุงต้มได้โดยไม่ต้องเสียเงินซื้อแก๊สหุงต้มใช้เลยแม้แต่บาทเดียว  
จากการสอบถามนายศิลา    สุฑารัตน์  เจ้าของไอเดียเล่าให้ฟังว่า  มีความคิดที่จะกักเก็บก๊าซระเหยจากไอน้ำมันมาตั้งแต่ปี  ๒๕๓๗  แต่ไม่มีเวลาที่จะทำจนกระทั่งมาเปิดขายน้ำมันปั๊มหลอดดังกล่าวเพื่อเป็นรายได้เสริมจากการขายไก่ย่างพลังงานแสงอาทิตย์  โดยทุกครั้งที่ขายนั้นเมื่อหมุนน้ำมันจะต้องหมุนน้ำมันจากถังใหญ่เพื่อให้น้ำมันขึ้นมายังหลอดแก้วด้านบนจะเกิดไอระเหยขึ้นมา  ซึ่งมองดูแล้วมีความคิดว่าไอระเหยนั้นน่าจะนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้  จึงทดลองใช้ถุงพลาสติกลองหุ้มดูปรากฏว่าถุงพลาสติกนั้นพองขึ้น  แล้วนำมาจุดไฟดูที่ปากถุงปรากฏว่าเกิดไฟลุกได้  จึงมีความคิดที่จะนำสายยางขนาดพอดีกับช่องระเหยของไอน้ำมันจากโหลแก้วโดยต่อสายยางเข้ากับยางในรถยนต์ขนาดใหญ่จำนวน  ๓  ห่วง  เพื่อเก็บไอระเหยจากน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซลที่ได้นั้นไว้ใช้เป็นแก๊สหุงต้มประกอบอาหาร  ซึ่งเมื่อทดลองจุดปลายของสายยางที่ต่อเข้ากับยางในรถยนต์แล้วทำการจุดไฟที่ปลายสายยาง  ผลปรากฏว่าเกิดไฟลุกที่ปลายสายยา  ง  จึงได้นำหัวของเตาแก๊สมาดัดแปลงต่อเข้ากับสายยางที่พ่วงด้วยห่วงยางเก็บไอระเหยจากน้ำมันหรือที่เรียกว่าแก๊สห่วงยางนั้น  เมื่อจุดไฟก็สามารถใช้ได้เหมือนแก๊สปกติทั่วไปที่ใช้กันอยู่ทุกครัวเรือน  
ทั้งนายศิลา  ยังบอกอีกว่าห่วงยางที่ใช้สำหรับเก็บไอระเหยของน้ำมันนั้นต้องมีการอัดลมเพิ่มเข้าไปเพื่อให้ห่วงยางนั้นมีแรงดันเต็มที่จึงจะสามารถนำมาต่อกับหัวเตาแก๊สได้  โดยประสิทธิภาพและคุณภาพที่ได้นั้นไม่แตกต่างจากแก๊สหุงต้มจากที่ซื้อมาจากร้านค้าที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย  นอกจากนี้ยังเป็นการประหยัดต้นทุนในการซื้อแก๊สหุงต้ม 
ลดค่าใช้จ่ายภายในบ้านและที่สำคัญเป็นภูมิปัญญาที่คนส่วนมากนั้นน่าจะหันมาช่วยกันประหยัดและนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันในยุคน้ำมันแพงเช่นนี้ด้วย  หากใครสนใจหรือต้องการทราบข้อมูลเกี่ยวกับแก๊สห่วงยางนี้สามารถโทรพูดคุยหรือมาดูด้วยตนเองได้ที่คุณ  ศิลา  สุฑารัตน์  หมายเลขโทรศัพท์  ๐-๓๒๔๒-๘๒๕๐ 
/////////////////////  (๒๐/๐๗/๔๙)  ทีมข่าว  รายงาน
 
 
 
 
 
 
 
 Posts
Posts
 
 

